คุณลักษณะต่างๆกับการเปลี่ยนแปลง
มาตรว่าเพื่อการอบรมบ่มนิสัยของมนุษย์นั้น มนุษย์จำเป็นจะต้องต่อสู้ บากบั่น และพยายามเอาชนะอารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเองได้ เพราะหากมนุษย์ปล่อยว่างแม้แต่เพียงเสี่ยววินาทีเดียวของชีวิต นัฟซูหรืออารมณ์ใฝ่ต่ำจะฉุดกระชากเขาลงสู่เบื้องลึกแห่งความชั่วช้าสามาลย์ทันที แม้นว่าจะมีชนบางกลุ่มที่ปล่อยปะละเลยการขัดเกลาตน โดยไม่คำนึงถึงว่าชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขากำลังใกล้เคียงความเป็นสัตว์เดรฉารขึ้นทุกที พวกเขาจะหลีกหนีต่อสู้กันนัฟซูของตนเอง และพวกเขาก็สรุปการขัดเกลาและอบรมจริยธรรมว่าเป็นเรื่องยากและเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำ
ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยสันดานเดิมของมนุษย์จะเป็นเรื่องยาก ซึ่งต้องอาศัยความบากบั่นระมัดระวังเพรียงใดแต่อัตราการเสี่ยงของมนุษย์ที่มีต่อความหลงผิดและมืดมน อุลตรการในชีวิตก็มีมากเพียงนัน สืบเนืองจากว่า หากมนุษย์เพิกเฉยต่อการขัดเกลาตนให้อยู่ในครรลองครองธรรมของนโยบายแห่งพระผู้เป็นเจ้า เขาก็จะหลุดจากวงโครจรแห่งความถูกต้องเที่ยงธรรมที่จะนำพาเขาไปสู่ความผาสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า
ทว่าพระผู้เป็นเจ้าจะมิทรงคาดคั่นสิ่งใดที่เกินความสามารถของปวงบ่าว เว้นแต่หากมีบัญชาเน้นมาในเรื่องใด นั่นจะบ่งถึงคุณประโยชนย์ที่จะได้รับจากการปฎิบัติตามสิ่งนั้นต่างหาก
ประเด็นต่อไปนี้จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงข้างต้นโดยพวกเขาให้เหตุผลว่า
1 อัคลาค หรือคุณสมบัติ คือ สถานภาพด้านในภายในจิตใจของมนุษย์ และตัวตนของมนุษย์ ซึ่งจะเหมือนกับรูปสมบัติอันเป็นรูปแบบการถูกสร้างของมนุษย์ทั้งสองจะถูกลี่ยนแปลงไม่ได้
2 เพื่อการได้มาซึ่ง อัคลาค ที่ดีงามนั้น มนุษย์จำเป็นต้องขจัดทำลายล้างกิเลตัณหาของตนเองให้สิ้นซาก และจะต้องหันหลังให้กับเรื่องราวแห่งดุนยาชนิดถอนรากถอนโคน ซึ่งแน่นอนที่สุดการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิบัติอย่างนั้น เพราะการต่อสู่กับนัฟซูให้ได้ชัยชนะอย่างบริบรูณ์นั่น มนุษย์จะต้องทำจิตใจให้ว่างจากความต้องการทางด้านดุนยาทั้งหมดของเขา ซึ่งนี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ยากจะกระทำเช่นกันจะเป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์ต้องอาศัยโลกดุนยา นี้แล้วจะต้องมีความต้องการใดๆและหันหลังให้กับ เนี้ยะมัต ความบรมสุขต่างๆที่พระองค์ประทานให้มา?
คำตอบข้อปัญหา
หากอัคลาค(นิสัย,สันดาน) ของมนุษย์เป็นสิ่งที่เปลี่ยแปลงไม่ได้จริง แล้วจะมีการอบรมสั่งสอนแนะนำจากบรรดาอุละมาล์ผู้รู้เกียวกับประเด็นนี้ไว้ทำไม วิชาการอันสูงส่งจากพวกเขาจะเป็นโมฆะกระนั่นหรือ! พระองค์ทรงตรัสไว้ในซูเราะ ชัมส์ อายะที่ 9-10 ว่า
แน่แท้ผู้ชำระตนจนสะอาดเขาย่อมต้องได้รับชัยชนะและผู้ยังคงหมักหมมอยู่เขาย่อมขาดทุน
อะไรคือข้อพิสูจน์ที่แน่แท้จริงว่า อุปนิสัยสันดานของมนุษย์เปลี่นแปลงไปไม่ได้ในเมื่อเราสามารถพบเห็นความเปลี่ยนแปลงในหมู่ปศุสัตว์ที่ถูกฝึกมาอย่างดี เช่น......
กวางป่าสงวนที่ค่อนข้างจะตื่นตัวอยู่เสมอ แต่เมื่อมันได้ใกล้ชิดกับมนุษย์มากๆกวางก็จะสงบสงและกลายเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่า เชื่อง ที่สุดหรือหมาป่าที่ช่วยในการล่าสัตว์ของนายพราน ซึ่งโดยสันดานแล้วหมาป่าพวกนี้จะกินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร แต่หลังจากฝึกฝนนายพรานจะพบว่า นอกจากมันจะไม่กินเหยื่อของเจ้าของแล้ว มันยังคาบกลับมาอย่างระมัดระวังที่สุด !!!!!
ตัวอย่างทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความเปลี่นแปลงได้ของอุปนิสัย สันดาน ซึ่งอย่าว่าแต่มนุษย์แม้แต่ในปศุสัตว์ก็เป็นไปได้ที่จะกระทำ..........
หากจะแบ่งสิ่งมีชีวิตออกเป็นสองจำพวก
จำพวกแรก คือ สิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์และมนุษย์ไม่สามารถมีอิทธิพลเหนือสิ่งต่างๆเหล่านั้น เช่น ท้องฟ้า และการโครจรของดวงดาว กลไกลเรือนร่างของมนุษย์เองทั้งภายในและภายนอก เหล่านี้คือสิ่งมีชีวิตซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะสมบรูณ์แบบในตัวตน จึงไม่จำเป็นต้องการควบคุมใดๆ
จำพวกที่สอง คือ สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะที่ไม่สมบรูณ์ ทว่าแรงพลังของความสมบรูณ์แบบของสิ่งเหล่านั้นจะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบเพื่อความสมบรูณ์แบบของมนุษย์จะมีบทบาทสำคัญเกียวกับประเด็นนี้ด้วยในบางครั้ง เช่น.....
เมล็ดพันธุ์ที่ต้องเพาะเพื่อขยายพันธุ์และเพื่อการเจิญเติบโต ณ จุดนี้ยังคงคือ เมล็ดพืชและมนุษย์ผู้เป็นเกษตรกรควบคุมดูแลในเรื่องของการเพาะพันธุ์มันก็จะกลายสภาพเป็นผลแอปเปิ้ล หรือ อิทผลัมได้อย่างสมบรูณ์แบบ
ในขณะเดียวกันการระมัดระวังและขั้นตอนอันถูกต้องก็จำเป็นต่อการควบคุมดูแลเป็นที่สุดเพราะหากควบคุมดุแลผิดวิธี ผลลัพธ์ที่จะได้ก็จะไม่ตรงเป้าหมายที่คาดหวังเอาไว้
เมล็ดพันธุ์พืชต้องการการควบคุมดูแลเอาใจใส่ต่อเกษตรกร แต่ขณะเดียวกันก็มีการเจริญเติบโตของตนเองด้วย.....กิเลสตัณหาก็จำเป็นต้องควบคุมดูแลเช่นกัน
เพราะฉะนั้นการควบคุมกิเลส อารมณ์ให้อยู่ในความสมดุลย์พอเหมาะพอดีต่างหากที่ อิสลามต้องการจากมนุษยชาติ สิ่งที่เราต้องการจากอารมณ์โกธร คือเมื่อเวลาที่เราจะต้องปกป้องตัวเองหรือเผชิญหน้ากับภัยอันตราย อารมณ์โทสะจะแสดงออกมาด้วยความกล้าหาญและควบคู่ไปกับสติปัญญา เพราะหากหลุดออกจากการควบคุมอารมณ์ของสติปัญญา มนุษย์จะใช้โทสะไปในทางที่ผิด
ดังนั้นจะเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะฆ่านัฟซูของตัวเองให้ราบคาบ แม้ในบรรดานบีและอะอิมมะห์ผู้บริสุทธิ์ก็ยังมีเรื่องราวแห่งกิเลสและอารมณ์ ทว่าพวกเขาควบคุมมันได้อย่างแน่นหนา และอารมณ์ต่างๆเหล่านั้นจะไม่นำพวกท่านเหล่านั้นให้ต้องหันเหออกจากหนทางแห่งตักวาและอีหม่านแม้แต่น้อยซึ่งพวกท่านเหล่านั้นจะใช่ไปในทางที่ถูกต้องเสมอ
รายงานตามประวัติศาตร์บันทึกไว้ว่าทุกครั้งที่มีการถกเถียงกันในเรื่องราวที่ไร้สาระต่อหน้าท่านนบี ท่านจะแสดงอาการโกธรออกมาอย่างเห็นได้ชัดโดยสีหน้าอาการของท่าน
เพราะฉะนั้นในการควบคุมกิเลสตัณหานั้นจะมีรูปแบบของการตัดขาดชนิดถอนรากถอนโคนไม่ได้ เพราะโดยธรรมชาติแล้ว กิเลสตัณหาจะมีบทบาทของตน หากปราศจากการควบคุมดูแลให้แสดงบทบาทของตนในลักษณะที่ถูกต้อง อยู่ในขอบเขตการเจริญเติบโตของมันจะเป็นการเจริญเติบโตที่ไม่สมบรูณ์แบบ ราวกับต้นแอปเปิ้ลที่ไม่ได้ผลหรือให้ผลที่ไม่สวยงาม ไม่หวานนั้นเอง
ดั่งนั้นความเชื่อที่ว่า เพื่อการขัดเกลาตนมนุษย์จะต้องทำลายอารมณ์แห่งกิเลสตัณหาของตนให้สิ้นซาก ซึ่งมันเป็นความเชื่อที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของอิสลาม เพราะอันที่จริงอารมณ์แห่งกิเลสคือสิ่งที่สำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ สำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ เช่น หากมนุษย์ไร้อารมณ์อยาก,หิว,มนุษย์ก็จะต้องตายลงไป เพราะมิได้บริโภคอาหารอันเป็นปัจจัยยังชีพที่สำคัญ หรือ หากมนุษย์ปราศจากความใคร่แล้วไวร้มนุษย์ก็จะไม่มีทายาทสืบสกุลและพันธุกรรมแห่งมนุษย์ก็จะหมดสิ้นไป หรือหากมนุษย์ปราศจากอารมณ์แห่งโทสะมนุษย์ก็จะไม่รู้จักป้องกันตนเองจากภัยอันตราย และคงจะไม่รู้จักการตอบโต้ที่พึ่งมีแก่ศัตรู......หรือหากปราศจากอารมณ์แห่งรัก โลกนี้ก็คงปราศจากคุณงามความดี ความเสียสละ ความเอาใจใส่ดูแล ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพราะความรักเป็นแหล่งที่มาแห่งความดีงามทั้งหลาย
บรรดาผู้ซึ่งระงับความโกธร ซึ่งตามอายะแล้วนั้นพระองค์มิได้ทรงกล่าวถึงผู้ที่ไร้ซึ่งความโกธร แต่ทรงกล่าวถึงผู้มีความโกธรและเขาสามารถระงับไว้ได้
และในบางครั้ง อารมณ์แห่งกิเลสตัณหาเหล่านี้จะพวยพุ่งสู่อำนาจสูงสุดจนทำให้มนุษย์ต้องลืมตนและหลงระเริงอยู่กับเรื่องราวของดุนยาแห่งการแสวงหาความสนุกสนานเพลิดเพลินไปเพียงวันๆ หรือไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเททั้งกายและใจเพียงเพื่อการมุ่งสะสมทรัพย์ศฤงคารโดยไม่ยั่งคิดถึงความเป็นสองภาคของตนเอง
แน่แท้ผู้ที่หลงระเริงอยู่ในดุนยาเขามิอาจรู้ได้ว่า ความหายนะอันนิรันดร์กาลมาสู่เขาและจะไม่มีใครช่วยเหลือเขาได้เว้นเสียแต่ว่าเขาจะรู้สึกตัวเสียตั้งแต่วันนี้!!!!!
’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น